1. เพื่อป้องกันข้อมูล และเครือข่ายจากผู้ไม่หวังดี จากภายในและภายนอกองค์กร
2. ข้อมูลลับที่ไม่พึงเปิดเผย เช่น ข้อมูลรหัสผู้ใช้งาน, รหัสผ่านของระบบ, ข้อมูลที่เกี่ยวกับลูกค้า เช่น หมายเลขบัตรเครดิต เป็นต้น 3. เครือข่ายและทรัพยากรของระบบ เช่นเครื่องคอมพิวเตอร์ Hardware Software หรืออุปกรณ์สื่อสาร ต่างๆ ในปัจจุบันนี้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าเป็นช่องทางการติดต่อสื่อสารผ่านทางอินเทอร์เน็ตที่มีประสิทธิภาพซึ่งอำนวยความสะดวกรวดเร็ว ประหยัดเวลา มีค่าใช้จ่ายต่ำ ด้วยเหตุนี้ทำให้อินเทอร์เน็ตเป็นที่แพร่หลายมากขึ้นทั้งในด้านธุรกิจของรัฐบาลและเอกชน ซึ่งความนิยมและแพร่หลายของอินเทอร์เน็ตนั้นส่งผลให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เติบโตและเป็นที่รู้จักมากขึ้น และพัฒนาการของการนำมาตรฐานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยมาประยุกต์ใช้กับระบบสารสนเทศในองค์กรเริ่มเป็นที่แพร่หลายมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งความแพร่หลายนี้อาจเกิดจากประสบการณ์ในการใช้งานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างไม่ปลอดภัยหรือไม่ถูกต้องตามหลักวิธีและขั้นตอนจึงทำให้เกิดผลกระทบในด้านลบตามมา หรืออาจเกิดจากนโยบายเชิงรุกของประเทศที่พัฒนาแล้วด้านเทคโนโลยีสารสนเทศได้กำหนดให้ประเทศที่เป็นคู่ค้าของตนต้องจัดทำระบบสารสนเทศที่มีความมั่นคงปลอดภัยด้วยเช่นกัน จึงจะเป็นที่ยอมรับและเชื่อมั่นในการใช้งานในยุคปัจจุบัน การสื่อสารทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์หรือไปรษณีย์อิเล็กทรอนิคส์ หรือที่เราเรียกกันว่า Email นั่นเองซึ่งในปัจจุบันนี้การรับ-ส่งอีเมล์ได้กลายเป็นเรื่องปกติสำหรับชีวิตการทำงานของพนักงานทุกคนเป็นส่วนใหญ่แต่การสื่อสารวิธีนี้ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของข้อมูลที่ใช้ในการสื่อสารเป็นสำคัญ ด้วยเหตุนี้จึงได้นำเครื่องมือ PGP (Pretty Good Privacy) มาใช้ในการรักษาความลับและความปลอดภัยในการสื่อสารทางจดหมายอิเล็กทรอนิคส์หรืออีเมล์ด้วย ซึ่งการสื่อสารวิธีนี้ได้รับการยอมรับและเป็นที่นิยมมาก PGP เป็นเครื่องมือที่จะยอมให้คอมพิวเตอร์ทำการเปลี่ยนแปลงข้อความ รักษาความปลอดภัยของไฟล์ และใช้การเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายให้เป็นแบบความลับ โดย PGP จะใช้ public keyในการเข้ารหัส public key ก็คือ สิ่งที่ทำขึ้นบนเว็บไซต์ในอินเทอร์เน็ตหรือ server ส่วนตัว และใช้ private keyในการถอดรหัส private key จะมีเพียงอันเดียวเท่านั้นซึ่งมันจะอยู่ภายในคอมพิวเตอร์ส่วนตัวของผู้ใช้ที่จะช่วยในการรักษาความลับความปลอดภัยของข้อความที่มีอยู่ในอีเมล์และไฟล์ได้โดยการเข้ารหัสเพื่อให้ผู้รับอีเมล์หรือผู้ที่เราต้องการติดต่อที่ระบุหรืออ้างถึงไว้เท่านั้นที่จะสามารถเปิดอ่านได้เพียงคนเดียวเท่านั้น เกี่ยวกับ PGPนั้น server ของคุณ หรือคอมพิวเตอร์ที่สร้าง public key นั้น มันจะทำการส่งให้กับระบบเครือข่ายอื่นๆ เช่นอินเทอร์เน็ต อีเมล์ เป็นต้น public key ที่ผู้ใช้อื่นนำมาใช้เพื่อเข้ารหัสข้อมูล และส่งกลับมาหาคุณ คุณจะเป็นสิ่งเดียวกับ Public key เพราะนั่นคุณก็คือผู้ที่สามารถทำการถอดรหัสไฟล์ได้แต่เพียงผู้เดียว นอกจากนี้ โปรแกรมการเข้าและถอดรหัสลับข้อมูลความเร็วสูงสำหรับหน่วยเก็บข้อมูลแบบพกพา โดยใช้ความรู้ทฤษฎีการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและวิทยาการรหัสลับ เพื่อให้การเก็บรักษาข้อมูลภายในหน่วยเก็บข้อมูลแบบพกพามีความปลอดภัยมากขึ้น และผู้ใช้จะสามารถมั่นใจได้ว่าข้อมูลต่างๆในหน่วยเก็บข้อมูลแบบพกพานั้นจะไม่ถูกล่วงรู้จากบุคคลอื่น เพราะวิธีการ Encryption ของ PGP เป็นวิธีการที่ Hacker ถอดรหัสได้ยาก |
PGP (Pretty Good Privacy) เป็นโปรแกรมที่ใช้สำหรับการเข้ารหัสและถอดรหัสข้อความในอีเมล์หรือในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่มีการเข้าข้อมูลส่วนบุคคล และการตรวจสอบ การสื่อสาร ข้อมูลเพื่อให้มีความปลอดภัยของข้อมูลมากขึ้น ในการส่งข่าวสาร ระหว่างผู้ส่งและผู้รับ และปัจจุบัน PGPเป็นมาตรฐานที่มีคุณภาพของการเข้ารหัสแบบ public key
PGP อาศัยหลักการของเทคโนโลยีการเข้ารหัสซึ่งเป็นที่ยอมรับและรู้จักกันดี ก็คือ เป็นโปรแกรมที่ใช้สำหรับเข้ารหัสและถอดรหัส โดยใช้หลักของกุญแจสาธารณะมาใช้งาน สนับสนุนอัลกอริทึมที่ใช้สำหรับการเข้ารหัสหลายชนิด ใช้สำหรับวิธีการเข้ารหัสแบบอะซิมเมตริกหรือแบบกุญแจสาธารณะ และการเข้ารหัสแบบซิมเมตริกด้วยมีอัลกอริทึมซึ่งเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย ในด้านการเข้ารหัสความปลอดภัย ซึ่งประกอบด้วยกุญแจ 2 ชุดสำหรับการติดต่อสื่อสารกันอย่างปลอดภัย ชุดหนึ่งเรียกว่ากุญแจส่วนตัว (Private Key) ส่วนอีกชุดหนึ่งเรียกว่า กุญแจสาธารณะ (Public Key) ในการส่งอีเมล์ถึงผู้อื่น เราต้องใช้ Public Key ของผู้นั้นในการเข้ารหัส ซึ่งผู้รับที่ระบุไว้เท่านั้นที่สามารถถอดรหัสด้วย Private Key ของตนเองเพื่ออ่านข้อความได้ ในทางกลับกัน เมื่อผู้อื่นต้องการส่งอีเมล์แบบเข้ารหัสมาให้เรา ผู้นั้นจะต้องใช้ Public Key ของเราในการเข้ารหัส ซึ่งจะมีแค่เราเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่จะสามารถใช้ Private Key ของเราเองในการถอดรหัสข้อความนั้นได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ Private Key ของตัวเองในการเซ็นรับรองอีเมล์ไปยังผู้อื่น เมื่อผู้นั้นได้รับอีเมล์ดังกล่าวก็จะใช้ Public Key ของเราในตรวจสอบให้แน่ใจว่ามาจากเราจริงหรือไม่ โดยไม่ได้ถูกลักลอบแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลหรือไฟล์ระหว่างทาง เมื่อผู้อื่นส่งอีเมล์พร้อมการเซ็นรับรองมาให้เรา ทางเราก็ต้องใช้ Public Key ของผู้นั้นในการตรวจสอบด้วยเช่นกัน ที่สำคัญและควรทำเมื่อใช้โปรแกรม PGP ก็คือ การสำรองกุญแจ ทั้ง Private Key และ Public Key เหตุผลก็เพราะว่า เมื่อคุณสร้างคู่กุญแจขึ้นมาใช้งาน คุณก็ต้องจัดส่ง Public Key ไปให้เพื่อนๆ ของคุณด้วย หากเครื่องของคุณเสียหาย ไม่สามารถใช้งานคู่กุญแจตัวเก่าได้ ทีนี้คุณก็จะต้องลงโปรแกรม PGP กันใหม่ แล้วก็ต้องสร้างคู่กุญแจเพื่อใช้งานใหม่อีกครั้ง ซึ่งทำให้ต้องเสียเวลาจัดส่ง Public Key ใหม่ไปให้กับเพื่อนๆ และเมื่อเพื่อนๆ ของคุณได้รับ Public Key ตัวใหม่ ก็จะต้องลบ Public Key ตัวเดิมทิ้งไป เรียกว่าเสียเวลาด้วยกันทั้งสองฝ่าย ถ้ามองในแง่ของ Public Key ที่คุณรับมาจากเพื่อนๆ แน่นอนว่าหากเป็นกรณีที่เครื่องของคุณเสียหาย ก็จะต้องเสียเวลา เมล์ไปบอกเพื่อนๆ ว่า ให้ส่ง Public Key มาให้ใหม่ ซึ่งโดยปกติแล้วเมื่อ PGP Key มีการเพิ่มเติมไม่ว่าจะเป็น Private Key หรือ Public Key ก็ตามเมื่อคุณปิดหรือสิ้นสุดการใช้งาน PGP Key ก็จะทำการเตือนทุกครั้งว่า ให้ทำการสำรองกุญแจเอาไว้ด้วย กลับสู่ด้านบน |
PGP เป็นซอฟต์แวร์ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นครั้งแรกโดย Philip R. Zimmermann เขาได้เริ่มนำ PGP รุ่น 1.0 ออกเผยแพร่ให้ใช้ได้ฟรีตั้งแต่เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2534 เป็นต้นมา โดยสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีจากอินเตอร์เน็ต หรือจาก BBS ช่วยให้ผู้ที่ใช้ PGP สามารถโต้ตอบอีเมล์ที่เป็นความลับกับคนที่ไม่เคยเจอตัวกันมาก่อน โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งกุญแจลับกันผ่านทางช่องทางที่ปลอดภัยก่อนแต่อย่างใด ซึ่งในรุ่น 1.0 เขาใช้ LZHuf ในการบีบอัดข้อมูล และใช้ MD4 ในการย่อยข้อความ ส่วนการเข้ารหัสใช้ RSA ร่วมกับ Bass-O-Mastics ซึ่งเป็นวิธีการเข้ารหัสแบบกุญแจสมมาตรที่เขาคิดค้นขึ้นเอง ต่อมาในรุ่น 2.0 เขาได้แทนที่ LZHuf ด้วย ZIP แทนที่ MD4 ด้วย MD5 และแทนที่ Bass-O-Mastics ด้วย IDEA เพื่อลดขนาดของข้อมูลหลังเข้ารหัสให้มีขนาดเล็กลงและเพิ่มความปลอดภัยของการเข้ารหัสให้มากขึ้น เขาได้รับแรงบันดาลใจในการพัฒนา PGP มาจากการที่ในปีนั้น รัฐบาลสหรัฐฯ ได้พยายามผลักดันร่างพระราชบัญญัติ S.266 ซึ่งกำหนดให้ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์เข้ารหัสทุกตัวต้องจัดเตรียมช่องทางลับเอาไว้ให้รัฐบาลสหรัฐฯ สามารถเข้าไปอ่านข้อความที่ถูกเข้ารหัสของผู้ใดก็ได้ แต่พวกเสรีนิยมอย่างเขาก็ต้องการกีดกันไม่ให้รัฐบาลยุ่งเกี่ยวกับการสื่อสารส่วนบุคคล เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวและคงไว้ซึ่งประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์แบบด้วยเช่นกัน ในท้ายที่สุดร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวจึงไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาสหรัฐฯ
ต่อมาหน่วยสืบราชการลับของสหรัฐฯ ต้องการตรวจสอบการสื่อสารทุกอย่างของประชาชนได้ เพื่อสืบหาผู้กระทำผิดกฎหมาย หรือบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติ รัฐบาลสหรัฐฯ จึงได้ออกกฎหมายซึ่งกำหนดให้ถือว่าซอฟต์แวร์เข้ารหัสที่คิดค้นขึ้นในสหรัฐฯ เป็นสมบัติของชาติ ซึ่งหากเล็ดลอดออกนอกประเทศไปอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศได้ และควบคุมการส่งออกซอฟต์แวร์เข้ารหัสไม่ให้ใช้กุญแจขนาดใหญ่เกินกว่า 40 บิต เพื่อที่ทางสำนักงานรักษาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ (NSA) จะสามารถเจาะรหัสข้อความที่โต้ตอบกับต่างประเทศได้ ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2539 Zimmermann ได้ก่อตั้งบริษัท Pretty Good Privacy, Inc. ขึ้น เพื่อทำธุรกิจจำหน่ายซอฟต์แวร์สำหรับการเข้ารหัส โดยตัวเขาเองดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ และประธานด้านเทคโนโลยี ในปี พ.ศ. 2540 บริษัทของเขาได้รวมตัวกับ McAfee, Network General และ Helix จัดตั้งเป็นบริษัทใหม่ในชื่อว่า Network Associates, Inc. ซึ่งมีโฮมเพจอยู่ที่ http://www.nai.com ดังในรูปที่ 2 ส่วน PGP รุ่นที่เป็น Free ware สามารถดาวน์โหลดได้จาก web site ของ MIT ที่ http://web.mit.edu/network/pgp.html สำหรับผู้ที่อยู่ในสหรัฐฯ หรือแคนาดาเท่านั้น ส่วนผู้ที่อยู่ในประเทศอื่น รวมทั้งพวกเราที่อยู่ในไทยตอนนี้มี PGPi ที่มีความสามารถเหมือน PGP ทุกประการให้ดาวน์โหลดมาใช้กันได้อย่างถูกกฎหมายแล้ว กลับสู่ด้านบน |
โปรแกรม PGP จะทำการเข้ารหัส (Encryption) ข้อความที่อ่านได้ตามปกติแปลงให้เป็นข้อความที่อ่านไม่รู้เรื่อง จนกว่าจะมีการถอดรหัส (Decryption) ข้อความปกติอันเดิมจึงจะกลับมาอ่านได้รู้เรื่องเหมือนเดิม แม้ว่าโดยปกติแล้วคนส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยกังวลหรือสนใจว่า จะมีใครรู้ความลับของตัวเองมากน้อยแค่ไหน แต่สำหรับโลกธุรกิจในสังคมปัจจุบันแล้วถือเป็นเรื่องสำคัญมากอย่างหนึ่ง ดังนั้น การติดต่อสื่อสารจึงเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังและต้องมีความรอบคอบเป็นอย่างยิ่ง แต่การใช้ PGP ช่วยเข้ารหัส ก็เป็นอีกหนึ่งหนทางเลือกที่จะทำให้คุณเกิดความมั่นใจในข้อความของสื่อสารต่างๆ ว่ามีความปลอดภัย และน่าเชื่อถือมากขึ้นอีกระดับหนึ่ง
PGP สามารถทำงานได้หลากหลายรูปแบบ มีวิธีส่งผ่านข้อมูลได้ทั้งจากคลิปบอร์ดและ Windows Explorer อีกทั้งยังถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย และมีรูปแบบที่ชัดเจนแน่นอน |
คือ เป็นโปรแกรมที่ใช้สำหรับการเข้าและถอดรหัสไฟล์ หรืออีเมล์ เพื่อความเป็นส่วนตัวและเพื่อความปลอดภัย ทั้งที่เป็นไฟล์ที่อยู่ในฮาร์ดดิสก์ รวมถึงไฟล์ที่ส่งผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นทางอีเมล์ ทาง ICQ ทาง MSN Messenger โดยมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ คือ
ระบบการเข้ารหัสลับใดๆนั้นจะต้องมีคุณสมบัติเป็นไปตามข้อกำหนดทั่วไปของระบบการเข้ารหัสลับ 3 ข้อ เพื่อที่จะเป็นที่ยอมรับในการนำไปใช้งานในทางปฏิบัติได้ ซึ่งข้อกำหนดเหล่านั้นคือ
|
ประสิทธิภาพของ PGP ขึ้นอยู่กับอัลกอริทึมที่ใช้ว่าสามารถแก้ได้ง่ายเพียงใด ซึ่งใน PGP เองก็ได้มีการปรับปรุงอัลกอริทึมที่ใช้มาอยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น RSA ในยุคแรก ๆจนมาใช้ IDEA กระทั่งในปัจจุบัน PGP นั้นก็มีการรวมรวมการเข้ารหัสแบบต่างๆเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งความปลอดภัยของข้อมูลของผู้ใช้นั้นจะมากน้อยเพียงใดก็จะขึ้นอยู่กับความหลากหลายของรูปแบบการเข้ารหัสที่ใช้ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลของผู้ใช้นั้นก็อาจจะถูกลักลอบดูได้โดยอาศัยโปรแกรมจำพวก โทรจัน หรือโปรแกรมในการดักจับคีย์บอร์ด ซึ่งทำให้ไม่ต้องคำนึงถึงเลยว่าข้อความได้ถูกเข้ารหัสมาดีเพียงใด กลับสู่ด้านบน |
ลายมือชื่อดิจิตอล (Digital Signature) เป็นสิ่งที่แสดงยืนยันตัวบุคคล (เจ้าของ email) และอีเมล์ (ข้อความใน email) ว่าอีเมล์นั้นได้ถูกส่งมาจากผู้ส่งคนนั้นจริงๆ และข้อความไม่ได้ถูกเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขในการส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ โดยภาพรวมลายมือชื่อดิจิตอลก็คือ ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้จากการเข้ารหัสข้อมูลด้วยกุญแจส่วนตัวของผู้ส่ง ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นลายมือชื่อของผู้ส่งนั่นเอง กลับสู่ด้านบน
|
ลายมือชื่อดิจิตอลใช้เมื่อเราต้องการความมั่นใจในแหล่งที่มา ของเอกสารเปรียบเทียบได้เหมือนลายมือชื่อซึ่งต้องเป็นผู้ส่งจริงที่สามารถคำนวณขึ้นมาได้ แต่ลายมือชื่อนี้สามารถพิสูจน์ได้คือบุคคลอื่นสามารถตรวจสอบได้ว่าลายมือชื่อนั้นมาจากผู้ส่งจริงๆ วิธีธรรมดาทั่วไปที่จะคำนวณลายมือชื่อดิจิตอลได้ก็คือการเข้ารหัสแบบคีย์สาธารณะ เช่น ผู้ลงนามคำนวณค่าลายมือชื่อโดยใช้คีย์ส่วนตัว (Private Key) และคนอื่นสามารถใช้คีย์สาธารณะพิสูจน์ได้ว่าลายมือชื่อมาจากคีย์ส่วนตัวที่ตรงกัน คุณสมบัติที่สำคัญของลายมือชื่อดิจิตอลนั้นจะต้องประกอบด้วย 2 ประการคือ
กลับสู่ด้านบน |
ข้อดี
|
เทคโนโลยีสารสนเทศมีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตในปัจจุบันเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้ ซึ่งการสร้างความปลอดภัยให้แก่ข้อมูลในปัจจุบันมี 3 ลักษณะ คือ การรักษาความปลอดภัยคอมพิวเตอร์ในองค์กร บนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต และข้อมูลส่วนบุคคล การรักษาความปลอดภัยทั้ง 3 ลักษณะนี้มีจุดประสงค์ที่เหมือนกัน คือ ป้องกันการบุกรุก และป้องกันข้อมูลที่เก็บรักษาไว้ ซึ่งรูปแบบของการบุกรุกและก่อความเสียหายนั้นมีหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการใช้ไวรัสคอมพิวเตอร์ การเจาะระบบ หรือการโจรกรรมข้อมูล ซึ่งล้วนแล้วแต่สร้างความเสียหายแก่ผู้ใช้และระบบสารสนเทศได้ อีเมล์ ก็คือบริการที่มีผู้นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายเนื่องจากการใช้งานง่ายและสะดวกสามารถส่งข้อมูลจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งได้อย่างรวดเร็วในปัจจุบันและใช้ทรัพยากรของระบบอย่างคุ้มค่าที่สุด แต่ก็เป็นบริการที่เสี่ยงต่อความปลอดภัยสูง เนื่องจากอีเมล์สามารถส่งจากผู้ส่งคนเดียวไปยังผู้รับหลาย ๆ คนได้พร้อมกัน สามารถถูกดักสัญญาณได้ง่าย นอกจากนี้ผู้ไม่ประสงค์ดีหรือโปรแกรมไวรัสบางชนิดก็ยังอาศัยช่องทางของอีเมล์ในการกระจายตัวเองได้ง่าย ดังนั้นจึงต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ดีพอในปัจจุบันมีภัยที่เกิดจากการปลอมแปลงอีเมล์ (Email Spoofing) ซึ่งเป็นการปลอมแปลงอีเมล์แอดเดรสของผู้ส่ง การปลอมแปลงอีเมล์นี้โดยทั่วไปจะมีวัตถุประสงค์ที่จะหลอกให้เหยื่อกระทำการที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายหรือบอกข้อมูลที่มีความสำคัญออกมา เช่น รหัสผ่าน หรือข้อมูลส่วนตัว สำหรับวิธีการป้องกันนั้น ควรใช้วิธีการเข้ารหัสดังที่กล่าวมาข้างต้น คือความเป็นส่วนตัวและการยืนยันความเป็นตัวจริงของผู้ส่ง ซึ่งจะมีประโยชน์ที่สำคัญอย่างยิ่งในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความปลอดภัย ทำให้เกิดขึ้นได้จริงในโลกปัจจุบัน กลับสู่ด้านบน |